จิตสัมผัส พรหมลิขิตรัก - นิยาย จิตสัมผัส พรหมลิขิตรัก : Dek-D.com - Writer
×

    จิตสัมผัส พรหมลิขิตรัก

    ปราณภพ ชายหนุ่มผู้มีจิตสัมผัสพิเศษที่ เขาสามารถสื่อสารกับบางสิ่งที่มองไม่เห็น เขาพยายามใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไปจนกระทั่งเขาค้นพบภูมิหลังความจริงเกี่ยวกับต้นกำเนิดของเขา พร้อมกับ ปิ่นเนตร หญิงสาวที

    ผู้เข้าชมรวม

    461

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    461

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    10
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  17 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  5 ก.ค. 67 / 13:26 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ผมลืมตาตื่นมาพร้อมกับเหงื่อที่เปียกโชกบนหน้าผาก ความฝันที่เหมือนผมอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ ทำให้ผมแทบจะข่มตาหลับต่อไปไม่ได้ ผมยันตัวเองลุกขึ้น เอื้อมมือเปิดโคมไฟข้างเตียง แสงสีนวลๆ สว่างขึ้นทันที เสียงกระพรวนในความฝันยังดังก้องอยู่ในหัวผมอย่างชัดเจน  ใบหน้าหญิงสาวนิรนามที่กำลังถูกไฟครอกส่งเสียงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมานตามหลอกหลอนผม  ผมยกมือปาดเหงื่อที่หน้าผากอย่างช้าๆ ก่อนจะใคร่ครวญถึงความฝันที่เกิดขึ้น ผมค่อยลำดับเหตุการณ์ในความฝันอย่างช้าๆ ผมเหมือนเข้าไปอยู่ในเรื่องราวจริงๆ ผมกำลังยืนมองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ              ในบ้านที่ใหญ่เหมือนคฤหาสน์ หญิงใบหน้างดงาม ผมยาวเป็นลอนดำเงา เธอสวมใส่ชุดสีชมพูอ่อนที่ยาวแทบจะถึงข้อเท้า เธอกำลังนั่งอยู่ในศาลาสีขาว รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข ในเวลาเดียวกัน เสียหนึ่งก็แว่วดังขึ้น พี่นาถค่ะ หญิงสาวที่มีใบหน้าละหม้ายกันเดินเข้ามา เธอทั้งสองช่างมีใบหน้าที่แทบจะเหมือนกันราวกับแกะมาจากพิมพ์เดียวกันก็ไม่ปาน “ว่าไงจ๊ะ น้องนุช” เสียงหญิงผู้พี่ตอบกลับด้วยน้่ำเสียงที่อ่อนหวาน ผมสังเกตทั้งสองอยู่นาน แม้ว่าใบหน้าที่งดงามของทั้งสองจะแทบไม่ต่างกัน แต่มีบางอย่างที่นุชผู้น้อง และนาถผู้พี่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คือ รอยแผลเป็นเล็กเป็นเส้นขีดยาวอยู่ตรงข้างลำคอของทั้งสอง นาถจะมีรอยแผลเป็นจางปรากฏอยู่ด้านซ้าย ส่วนนุชจะปรากฏอยู่ทางด้านขวา รอยแผลเป็นจางนี้ เป็นจุดที่ทำให้ผมสงสัย ทั้งสองดูรักใคร่กันเป็นยิ่งนัก จนกระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านไป  นาถได้แต่งงานกับผู้ชายที่พ่อและแม่จัดหาให้ เขามีชื่อว่า ปราบ ชายผู้เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติที่หญิงหลายๆ คนต่างอิจฉา ไม่ว่าจะหน้าที่การงานที่เป็นระดับท่านทูต หรือแม้แต่รูปร่างหน้าตาที่ไม่เป็นสองรองใคร  ในคืนแต่งงานของนาถและปราบ  นุชได้เข้ามาแต่งตัวให้นาถ ชุดเต่งงานที่เป็นเสื้อคอปกสีครีม ปกปิดต้นคอจนไม่เห็นรอยแผลเป็น ผ้าถุงครีมมีปักลายกนกสีทอง นุชคั้นน้ำส้มมาให้นาถด้วยรอยยิ้ม เมื่อนาถดื่มน้ำส้มจนหมด ไม่ถึงห้านาที เธอก็สลบและหลับไป รอยยิ้มมุมปากของนุชเผยให้เห็น ขณะที่ผมเฝ้ามองเรื่องราวนี้ ใจผมสั่นอย่างบอกไม่ถูก นุชสลับเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอกับนาถ และปล่อยให้นาถนอนหลับอยู่ในห้อง ก่อนที่นุชจะเดินจากห้อง และล็อคประตูห้อง  นุชสวมรอยเป็นนาถ อย่างไม่มีใครสงสัย “ลูกนาถ แล้วน้องไปไหนเสียละ” เสียงหญิงวัยกลางคนผู้เป็นแม่เอ่ยถาม
              “เห็นนุชบอกปวดหัว เวียนหัว อยากพักสักหน่อยนะจ๊ะแม่” นุชมีหน้านิ่งเฉยกับคำโกหกที่พยายามทำให้แนบเนียนที่สุด  พิธีแต่งงานดำเนินจนจบงาน จนกระทั่งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้ถูกส่งตัวเข้าห้องหอ ปราบอุ้มร่างหญิงสาวข้ามธรณีประตูอย่างช้าๆ เขาวางหญิงสาวลงบนเตียงสีขาว ที่มีกลีบกุหลาบกระจัดกระจายอยู่บนเตียง ปราบค่อยๆ ประทับริมฝีปากลงบนแก้มหญิงสาวอย่างแผ่วเบาก่อนที่เขาจะเอื้อมมือปลดกระดุมเสื้อที่อยู่บนสุดออก
               “ดับไฟก่อนสิจ๊ะ พี่ปราบ” นุชรีบเอ่ยขึ้นก่อน เพราะถ้าปราบเห็นรอยแผลเป็น เขาจะต้องรู้แน่ว่า เธอคือ นุช ไม่ใช่นาถ
               ปราบยิ้ม พร้อมเอื้อมดับตะเกียงไฟลง ในความมืด ทั้งสองได้มีความสุขกันอย่างลึกซึ้งสมดั่งใจนุช
               เมื่อตะวันขึ้น เสียงทุบประตูดังครึกโครม ปนเคล้ากับน้ำเสียงร้องไห้ “เปิดเดี๋ยวนี้! ใครอยู่ข้างนอกเปิดเดี๋ยวนี้!”
               หญิงวัยกลางคนผู้เป็นแม่รีบเปิดประตู นาถร้องไห้ฟูมฟาย กอดมารดาแน่น  พ่อและแม่ รวมทั้งนาถรีบตรงไปยังเรือนหอ เมื่อเปิดประตูเข้าไป สิ่งที่นาถไม่อยากเห็นมากที่สุดก็เด่นชัดอยู่ตรงหน้า  ปราบและนุชนอนกอดกัน ในร่างที่เปลือยกายใต้ผ้าห่มสีชมพู 
                “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” นาถแผดเสียง พร้อมทรุดตัวลงร้องไห้
                ปราบและนุช ตกใจตื่น  พ่อและแม่ตรงเข้ามาต่อว่าทั้งสอง ผู้เป็นพ่อตรงดิ่งเข้ามาตบหน้านุชอย่างแรง 
                “แกทำแบบนี้ได้อย่างไร หน้าด้านที่สุด แย่งได้แม้กระทั่งคนรักของพี่” บิดาต่อว่า 
                “แกมันน่าไม่อาย เป็นผู้หญิงอะไร ไม่มียางอายเลย แกมันไม่ใช่ลูกฉัน” มารดาต่อว่า 
                นุชกัดฟันกรอด “ใครบอกว่าฉันแย่งพี่นาถ พี่นาถนั่นแหละที่แย่งคนรักของฉัน”
                นาถมองนุชด้วยน้ำตาที่ไหลอาบเต็มแก้ม แววเธอระคนด้วยความเสียใจ และงุนงงไปพร้อมๆ กัน 
                “เธอนั่นแหละที่แย่งพี่ปราบไปจากฉัน” นุชชี้หน้านาถ 
                “เธอพูดอะไร พี่ไม่เข้าใจ?” นาถถามด้วยเสียงสะอึกสะอื้น
                “แน่สิ เธอมันไม่เคยเข้าใจอะไรเลย ฉันจะบอกให้เอาบุญนะ ว่าพี่ปราบเนี่ยแหละคนรักของฉัน” นุชกล่าว
                “นุช หยุดเถอะ” ปราบปราม
                 นุชหันขวับ “ทำไมฉันต้องหยุด ก็ฉันมาก่อน รักพี่ก่อน” นุชหันมองทางพ่อและแม่ “ถ้าไม่ใช่เพราะ พ่อ แม่บังคับพี่ พี่คงไม่ต้องแต่งงานกับพี่นาถหรอก พี่บอกพี่รักฉันไม่ใช่หรือ?”
                 ปราบก้มหน้าอย่างสำนึกผิด
                 นาถยันตัวลุกขึ้น พ่อและแม่รีบเข้าประคองไว้ “ว่าอย่างไรพี่ปราบ?” เสียงสะอึกสะอื้นเอ่ยถาม “ที่นุชพูดมาเป็นเรื่องจริงใช่ไหมค่ะ?”
                 ปราบยังคงเงียบ 
                 “ทำไมพี่ไม่ตอบละ” นุชกระชากน้ำเสียงไม่พอใจ
                 “พี่ขอโทษนะนุช” ปราบจับมือนุชเบาๆ “พี่รักนาถ”
                 “คืออะไร ฉันไม่เข้าใจ?” นุชถาม
                 “เป็นความจริงที่พี่เคยรักนุชมาก่อน แต่พี่รู้มานานแล้วว่าเรามีหลายอย่างที่ต่างกันมาก แต่เพราะพี่ขี้ขลาดเองไม่กล้าบอกนุชตรงๆ”
                 “พี่ปราบ พี่กำลังจะบอกว่า พี่อยากจะเลิกกับฉันตั้งนานแล้วงั้นหรือ?” นุชถาม
                 “พี่ขอโทษนะนุช” ปราบเอ่ยเบาๆ
                 นุชน้ำตาคลอ เธอค่อยเอื้อมมือจุดตะเกียงช้าๆ “พี่ทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง ฉันไม่ดี ไม่สวย ไม่เหมือนพี่นาถยังไง ทำไมพี่ถึงเลือกพี่นาถ” พูดจบนุชได้ขว้างตะเกียงไปยังผ้าม่าน ไฟลุกพลึ่บอย่างรวดเร็ว
                 “นุชเธอทำบ้าอะไรกันน่ะ?” ปราบตะโกนพร้อมคว้าผ้าคลุมที่พาดอยู่ตรงเก้าอี้มาคลุมก่อนจะลุกและคว้าเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ปราบรีบคว้าแขนของนาถ “รีบไปเร็ว ไฟลามมาแล้ว”
                 “แล้วนุชล่ะ?” นาถถาม 
                 “คุณต้องออกไป เดี๋ยวผมกลับมารับนุชเอง” ปราบร้อนรน ดึงนาถออกจากบ้านเรือนหอ
                 เมื่อพ่อ แม่ นาถ และปราบวิ่งออกมาจากบ้านได้แล้ว ปราบพยายามที่จะกลับเข้าไปเพื่อช่วยนุช ก็ต้องหยุดความตั้งใจ เพราะเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ ทำให้ตัวบ้านเริ่มใหม่แรงขึ้น 
                 ผมกำลังมองดู หญิงสาวที่โดดเดี่ยวเดียวดาย ร้องไห้อยู่บนเตียง ไฟไหม้ที่โหมไหม้ค่อยให้เธอกรี๊ดร้องขอความช่วยเหลืออย่างทุกข์ทรมาน กลิ่นของควันไฟที่พุ่งมายังตัวผม ทำให้ผมสำลักและสะดุ้งตื่นจากภวังค์ นี้คือเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผมสามารถเรียงลำดับได้

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น